Work  Efficiency  (โจรขโมยเวลา)

ท่านเคยรู้สึกไหมว่า เวลาของเราหายไปไหน ทั้งที่เราแต่ละคนมีเวลาเท่ากัน แต่ทำไมบางคนถึงทำให้เรารู้สึกว่า เขามีเวลาเยอะแยะมากมายในการทำสิ่งที่น่าประทับใจหลายอย่าง ในขณะที่เวลาของเราหายไปไหนอย่างไร้ร่องรอย

ช่วงเดือนสองเดือนนี้เป็นช่วงเวลาที่ผมเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ปริมาณงานที่มากขึ้น ดูเหมือนยิ่งทำยิ่งไม่รู้จักหมด  ยิ่งทำยิ่งพัวพัน   ยิ่งยุ่งเหยิง  บางงานก็ทำไม่ทันตามกำหนดเวลา  ต้องขอโทษขอโพยผู้ที่เกี่ยวข้องไปแล้วหลายคน

นับตั้งแต่ผมทำงานมา 10 กว่าปี ผมเพิ่งมารู้สึกเอามากๆช่วงนี้ว่า   ทำไมเวลาของผมดูเหมือนมันลดน้อยลง มันหายไปไหน หรือใครบังอาจขโมยเวลาของผมไป  ผมเคยเป็นคนที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิผล (Effectiveness) และประสิทธิภาพ (Efficiency) แต่ทุกวันนี้ผมกลายเป็นคนที่ทำงานไม่ทันเวลาได้อย่างไร แล้วแบบนี้ผมจะมีหน้าไปสอนใครได้

สิ่งที่ผมรู้สึกเป็นกังวลก็คือ ผมแทบไม่รู้ตัวเลยว่าใครหรือสิ่งใดที่เป็นเจ้าโจรขโมยเวลาของผม   ผมไม่รู้เลยว่ามันมาเยือนชีวิตผมตอนไหน    มันน่าแปลกใจจริงๆนะครับว่า เวลาก็เวลาของเรา ทำไมเราถึงไม่รู้เลยหล่ะว่ามันเข้ามาในชีวิตเราซะแล้ว  มารู้ตัวอีกที  มันก็ได้ขโมยเวลาที่ผมแสนหวงแหนไปต่อหน้าต่อตาผมอย่างเลือดเย็น

ท่านผู้อ่านลองดูสิ่งที่เจ้าโจรขโมยเวลาเหล่านี้มันทำกับผมสิครับ มันช่างทารุณเหลือเกิน  มันทำให้ผมทำงานไม่เสร็จตามที่ผมเคยรับปากคนอื่นไว้    มันทำให้ผมพลาดโอกาสไม่ได้ทำหลายอย่างที่ผมเคยฝันมาตั้งนาน  มันยังสร้างรอยแค้นให้ผมอย่างแสนสาหัส   เพราะมันทำให้ผมไม่เหลือเวลาในการออกกำลังกาย   สุขภาพก็ยิ่งทรุดโทรมไปเรื่อยๆ หน้าตาก็ดูแก่ก่อนวัย  ซ้ำร้ายกว่านั้นมันทำให้ผมไม่มีเวลากลับไปทานข้าวกับครอบครัวมาเป็นเดือนแล้ว  นี่ขนาดยังไม่ต้องกล่าวถึงนัดทานข้าวกับเพื่อนเก่าสมัยเรียนที่ไม่เจอกันมาหลายปี  ผมเองต้องจำใจเบี้ยวนัดพวกเขาอย่างกระทันหัน จนเพื่อนเบื่อการชวนผมไปทานข้าวด้วยแล้ว

พอกันที … ผมจะไม่ยอมปล่อยเจ้าโจรขโมยเวลาเหล่านี้ให้ลอยนวลอีกต่อไป

ถ้าท่านผู้อ่านเคยเจอสถานการณ์เดียวกับผมที่ไม่รู้ว่าเวลาของตนเองถูกใครขโมยไป   ผมคิดว่าวันนี้เป็นเวลาเหมาะสมที่สุดแล้วครับที่ท่านกับผมต้องมาช่วยกับจับเจ้าหัวขโมยผู้โหดเหี้ยมรายนี้   แล้วเรามาลองดูสิว่าจอมโจรขโมยเวลาพวกนี้มันเป็นพวกเดียวกับโจรขโมยเวลาในชีวิตของท่านผู้อ่านหรือไม่

ผมใช้เวลากว่า 1 เดือนนั่งจดบันทึกว่าในแต่ละวัน เจ้าโจรขโมยเวลาของผมมันเป็นใครกันแน่ วันนี้ผมจับมันได้คาหนังคาเขาแล้วครับ ไอ้เจ้าพวกนี้เองที่มันแอบมาหลบซ่อนในชีวิตของผม และคอยคืบคลานเข้ามาขโมยเวลาของผมไปทีละนิด ๆ  ต่อจากนี้ไปผมจะพาเจ้าพวกนี้มาพบกับท่านผู้อ่านเพื่อพิจารณาโทษของพวกมันกันครับ ให้สาสมกับความผิดที่พวกมันได้ก่อเวรก่อกรรมให้กับพวกเรา

  ขอเชิญท่านผู้อ่านพบกับโฉมหน้าของเจ้าจอมโจรขโมยเวลาทั้ง  8 ราย ดังนี้

1. การตื่นขึ้นมาอย่างไร้จุดหมาย

โจรตัวแรกที่ผมจับได้ในตอนเช้า   มันแอบเข้ามาอย่างเงียบๆตอนผมหลับ และมันเริ่มสร้างวีรกรรมกับผมตอนเช้าตรู่ของทุกวัน มันคือจอมโจรที่เรียกว่า “การตื่นขึ้นมาอย่างไร้จุดหมาย”  มันมีอิทธิฤทธิ์ คือ ทำให้เราไม่รู้สึกกระตือรือร้นในการทำอะไรเลย   ทำให้เราไม่มีแรงจูงใจในการลุกออกจากที่นอน   หรือหากเมื่อสามารถฝืนลุกจากที่นอนได้แล้ว  นอกจากทำกิจวัตรประจำวัน เช่น อาบน้ำ ล้างหน้า แปรงฟัน ทานข้าว  เราก็จะทำได้เพียงนั่งแช่อีกเป็นชั่วโมง ๆ กับการนั่งคิดว่าวันนี้เราจะทำอะไรดี   บางครั้งคิดไม่ออกก็ลงไปนอนเหมือนเดิม   สลับไปสลับมาแบบนี้จนหมดเวลาไปครึ่งค่อนวัน

 

ตื่นนอนอย่างไร้จุดหมาย acrosswork

โจรขโมยเวลาที่เรียกว่า การตื่นขึ้นมาอย่างไร้จุดหมาย สามารถแอบเข้ามาในชีวิตเราได้ในทุกช่วงวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน วัยผู้ใหญ่ หรือวัยชรา บ่อยครั้งที่เราจะพบเห็นว่าหลายคนนั่งเหมอลอยในตอนเช้า แม้ในขณะที่อยู่ในเวลาทำงาน นั่นแปลว่าคนเหล่านั้นอาจถูกเจ้าโจรตัวนี้เข้ามาสิงในชีวิต และเริ่มทำการขโมยเวลาของเขาคนนั้นไปเรียบร้อยแล้ว

จากประสบการณ์ของผม กล้าพูดไปอย่างเต็มปากเลยว่า เจ้าโจรตัวนี้ถ้ามันเข้ามาในชีวิตท่านวันไหน วันนั้นทั้งวันของท่านแทบจะเป็นวันที่ไร้ประสิทธิผลและประสิทธิภาพไปในทันที ท่านจะไม่มีแรงทำงานให้เสร็จ ท่านจะไม่รู้ว่าเป้าหมายของการทำงานในวันนี้คืออะไร ท่านจะนั่งทำอะไรไปเรื่อย ๆ จนหมดวันเพื่อพบกับผลลัพธ์ที่ว่า ท่านไม่ได้ทำอะไรที่เป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่าง

 

2. ผัดวันประกันพรุ่ง

โจรขโมยเวลาตัวนี้ มีอิทธิฤทธิ์ไม่ยิ่งหย่อนกว่ารายแรก   เพราะอะไรท่านผู้อ่านทราบไหมครับ ด้วยมายาของมัน ทำให้แม้ว่ามันปรากฎตัวต่อหน้าเรา เห็นชัดๆว่ามันเข้ามาในชีวิตของเราแล้ว   แต่หลายครั้งเราในฐานะเจ้าของเวลากลับรู้สึกว่าไม่เป็นไร ช่างมันเถิด และปล่อยให้มันขโมยเวลาไปต่อหน้าต่อตา

ท่านผู้อ่านเคยเจอเจ้าโจรรายนี้บ้างไหมครับ ผมนี่แหละครับจับมันได้หลายครั้งเลยในรอบเดือนนี้  เมื่อผมตั้งเป้าหมายว่าจะทำอะไรสักอย่างให้สำเร็จ เช่น ผมจะต้องอ่านเพื่อทำความเข้าใจกับเรื่อง Bitcoin และ Blockchain ให้รู้เรื่องภายในเดือนนี้ ผมตั้งเป้าหมายตามวิธีการที่ได้เรียนมาจากหลักสูตรของต่างประเทศเลยว่า ต้องย่อยเป้าหมายให้เล็กที่สุด โดยผมตั้งเป้าหมายในแต่ละวันอย่างชัดเจน  ผมจะอ่านเรื่องดังกล่าวในหัวข้อใดบ้าง จากเว็บไซต์ใดบ้าง และจากการคำนวณตอนวางแผน  ผมพบว่าไม่ใช่เรื่องยากเลยในการทำสิ่งเหล่านี้ให้สำเร็จ เพราะแผนที่ผมวางมานั่นถูกต้องตามหลักวิชาการทั้งสิ้น

 

ผัดวันประกันพรุ่ง acrosswork

แต่โลกแห่งความจริงมันโหดร้ายครับ  เจ้าโจร “ผัดวันประกันพรุ่ง” มันมาอีกแล้วตอนที่ผมกำลังตั้งใจจะทำอะไร มันเป่ามนต์ดำใส่หูผมเสมอเมื่อผมจะเริ่มเปิดอ่านหนังสือตามแผน  มันมักพูดว่า “อย่าเพิ่งอ่านเลย ไปทำอย่างอื่นที่สนุกๆก่อนเถอะ ยังมีเวลาอีกตั้งเยอะให้อ่าน เดี๋ยวเย็นๆค่ำๆค่อยกลับมาอ่านก็ได้ ทันแน่นอน ไม่ผิดจากแผนที่วางไว้หรอก”

เจ้าโจรตัวนี้มันแสบมากครับ มันพูดตั้งแต่วันแรกที่ผมตั้งใจจะลงมือทำ จนถึงวันนี้วันที่ผมได้รู้ซึ้งถึงฤทธิ์เดชของมันแล้วว่า  จะครบเดือนแล้วผมยังไม่ได้อ่านทั้ง 2 เรื่องนั้นเลย   น่าเสียดายยิ่งนักถ้าผมรู้ตัวสักนิด ผมจะรีบจัดการกับมันอย่างรวดเร็ว ไม่ปล่อยให้มันอยู่มานานขนาดนี้

 

3. รับทุกอย่างเข้ามาในชีวิต ไม่กล้าปฏิเสธ

ถ้านับเรื่องความแนบเนียนในการหลอกล่อเจ้าของเวลา  ผมกล้าพูดไว้ตรงนี้เลยว่าเจ้าโจรรายนี้ปลอมตัวได้อย่างไร้ที่ติ   เพราะภายนอกท่านผู้อ่านแทบไม่รู้เลยว่ามันคือหัวขโมยจอมเจ้าเล่ห์ เพราะมันอำพรางตัวเองภายใต้หน้ากากของคนดี    คนที่พร้อมจะช่วยเหลือคนอื่น   ใครให้ทำอะไรก็พร้อมที่จะรับปากทำให้กับทุกคน ใครใช้หรือไหว้วานให้เราโน่นทำนี่   แม้เป็นเรื่องที่ไร้สาระ เรื่องที่ไม่สำคัญ เรื่องที่ตนเองไม่ชอบ เจ้าโจรรายนี้ก็จะแกล้งยิ้มรับ แต่อาจมีแกล้งทำอึกๆอักๆบ้างแต่ก็รับปากทำให้ แม้ตัวเองจะไม่ถนัด แม้ว่าจะมีภารกิจที่สำคัญกำลังรออยู่ แต่มันก็ไม่กล้าที่จะเอ่ยปากปฏิเสธออกไป เอาว่าดูเป็นคนดีมาก

แต่ท่านผู้อ่านอย่าเพิ่งหลงใหลได้ปลื้มไปกับมันนะครับ   เพราะหลายครั้งที่มันทำคนอื่นเจ็บแสบไว้มาก เพราะรับปากคนอื่นเขาไปทั่ว ให้สัญญาเขาไปหลายอย่าง แต่พอถึงเวลาที่ต้องส่งงานให้เขาก็พบว่างานไม่เสร็จทั้งงานของที่รับปากเขามา และงานของตนเอง หรือถ้าเสร็จ ก็เรียกได้ว่าเสร็จแบบลวกๆ ไม่เรียบร้อย เป็นที่เบื่อหน่ายของคนที่ต้องทำงานด้วย จนหลายคนพูดลับหลังว่า ถ้ารู้ว่าทำไม่ได้หรือทำให้ไม่ทัน ทำไมไม่บอกเสียตั้งแต่ต้น ปล่อยให้เขารอแบบนี้เสียเวลา ผลที่ตามมาคือ แทนที่คนอื่นจะรู้สึกว่าเราเป็นคนมีน้ำใจ แต่เมื่อผลงานที่เขาขอให้เราช่วยออกมาแบบ ไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่เขาต้องการ  เขาจะกลับมาตำหนิได้ว่าท่านเป็นคนที่ใช้ไม่ได้และเป็นคนที่ไม่รักษาสัญญา

การที่เราปล่อยให้โจรแสบที่เรียกว่า “รับทุกอย่างเข้ามาในชีวิต ไม่กล้าปฏิเสธ” เข้ามาขโมยเวลาของเรา จึงไม่ได้ช่วยให้เราเป็นคนที่น่านับถือในสายตาของคนอื่น แต่จากที่ได้กล่าวมาแล้วมันกลับให้ผลที่ตรงกันข้ามกันอย่างสิ้นเชิง และมันยังขโมยเวลาที่เราควรหวงแหนรักษาไว้เพื่อมาใช้ทำสิ่งที่เราตั้งเป้าหมายไว้ สิ่งที่เราให้ความสำคัญ กลับถูกมันขโมยเวลาอันมีค่าของเราไปทำงานของคนอื่น ซึ่งส่วนมากเป็นงานที่พวกเขาเหล่านั้นก็ไม่อยากทำเช่นเดียวกัน

 

รับทุกอย่างเข้ามาในชีวิต ไม่กล้าปฏิเสธ

ทั้งนี้ผมไม่ได้หมายความขนาดที่ว่า ให้ปฏิเสธทุกคนทุกครั้งที่คนอื่นมาขอให้ท่านช่วยเหลือทำอะไรบางอย่างให้เขา    ถ้าทำขนาดนั้นมันก็เกินไปครับ เพราะเท่ากับว่าคนที่ทำแบบนี้เป็นคนที่แยกแยะอะไรไม่เป็น การกล้าที่จะปฏิเสธในที่นี้ คือ การวิเคราะห์แล้วว่าสิ่งที่ปฏิเสธเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญ และหรือเป็นสิ่งที่อาจจะมีความสำคัญแต่ยังไม่เร่งด่วนก็เป็นได้

การที่จะปฏิเสธใครแล้วยังทำให้เขารู้สึกดีกับเรา เป็นเรื่องที่น่าสนใจ  ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วมนุษย์เราเป็นคนที่ไม่ชอบการถูกปฏิเสธ    เพราะมันทำให้เรารู้สึกต่ำต้อย ไร้ค่า ไร้ความหมาย เพราะฉะนั้นการที่ท่านผู้อ่านจะสามารถปฏิเสธใครก็ตามจึงไม่ได้อาศัยแค่ความกล้าเพียงอย่างเดียว แต่ต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจและมีทักษะในการพูดปฏิเสธอย่างแยบยล ซึ่งหากมีโอกาสเหมาะๆในคราวหน้า ผมอาจขอเรียนรับใช้ท่านผู้อ่านเพิ่มเติมในประเด็นดังกล่าวนี้ เพราะเป็นเรื่องที่ต้องอธิบาย ทำความเข้าใจกันพอสมควร

เห็นไหมครับท่านผู้อ่าน  เพียงแค่โจรขโมยเวลา 3 รายนี้ ก็เล่นเอาพวกเราหัวปั่นไปแล้วใช่ไหมครับ  ยังเหลืออีกตั้ง 5 วายร้ายที่ผมอาจต้องขออนุญาตทุกท่านนำพวกมันมาตีแผ่อีกครั้งในบทความหน้า  เพราะวีรกรรมของพวกมันนั้นก็สร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้กับพวกเรามาเป็นเวลานาน https://zipschedules.com/work-efficiency.html

โจรขโมยเวลา ตอนที่ 2